- วันหยุดนักขัตฤกษ์
- กิจกรรมของ ก.ธ.จ.

ข่าวประชาสัมพันธ์และกิจกรรม (รายละเอียด)

03 มี.ค. 2568

------------------------------------
4. ส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข้มแข็งในทางการเมือง
และจัดให้มีกฎหมาย จัดตั้งกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง
เพื่อช่วยเหลือการดําเนินกิจกรรมสาธารณะของชุมชน
รวมทั้งสนับสนุน 5. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน
ในการตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐทุกระดับ ในรูปแบบองค์กรทางวิชาชีพ
หรือตามสาขาอาชีพที่หลากหลาย หรือรูปแบบอื่น
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้มีส่วนร่วมในการดำเนินงานตามภารกิจของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
(ก.ธ.จ.) ดังนี้ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
(ก.ธ.จ.) เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 55/1 โดย ก.ธ.จ. มีอยู่ในทุกจังหวัดยกเว้นกรุงเทพมหานคร
รวม 76 คณะ
เพื่อทำหน้าที่สอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐในจังหวัดให้ใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ก.ธ.จ.
ประกอบด้วย ผู้แทนภาคประชาสังคม ผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่น
ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร และผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน เป็นกรรมการ โดยมีผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,159 คน (รวมประธาน) โดย ก.ธ.จ. แต่ละคณะต้องมีการประชุมอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง จากการประชุมและการสอดส่องแผนงาน/โครงการ ตลอดจนเรื่องร้องเรียน ดังกล่าวข้างต้น พบว่า มีผลการสอดส่อง
รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,244 แผนงาน/โครงการ/เรื่อง ซึ่งน้อยกว่าแผนการปฏิบัติงานฯ ที่กำหนดไว้ เนื่องจากหน่วยงานได้รับจัดสรรงบประมาณล่าช้า
ส่งผลให้การดำเนินโครงการล่าช้า ประกอบกับบางจังหวัดประสบปัญหาอุทกภัย
ในจำนวนนี้มีโครงการที่ไม่เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน 1,120 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 49.91 ของแผนงาน/โครงการ/เรื่องร้องเรียน ที่สอดส่องทั้งหมด
------------------------------------
รายงานผลการปฏิบัติงานของ ก.ธ.จ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ (PDF)
การเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือบุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงาน
ตามภารกิจของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2550 มาตรา 87 ได้บัญญัติว่า รัฐต้องดําเนินการตามแนวนโยบายด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน
โดยการส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐทุกระดับ
ในรูปแบบองค์กรทางวิชาชีพ หรือตามสาขาอาชีพที่หลากหลาย หรือรูปแบบอื่น
เจตนารมณ์ที่บัญญัติไว้ดังกล่าวก็เพื่อให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดิน
ซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชนมีดังนี้
1. ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกําหนดนโยบาย
และวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น
2. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน
ในการตัดสินใจทางการเมือง การวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
รวมทั้งการจัดทําบริการสาธารณะ
3. ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน
ในการตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐทุกระดับ
ในรูปแบบองค์กรทางวิชาชีพ
หรือตามสาขาอาชีพที่หลากหลาย หรือรูปแบบอื่น
การดําเนินการของกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันในลักษณะเครือข่ายทุกรูปแบบให้สามารถแสดงความคิดเห็น
และเสนอความต้องการของชุมชนในพื้นที่
ในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2567 กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ซึ่งเป็นภาคประชาชน ได้เข้าร่วมประชุม ก.ธ.จ.
รวมจำนวน 234 ครั้ง
และมีแผนการติดตามสอดส่องแผนงาน/โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
แผนงาน/โครงการของส่วนราชการในจังหวัด แผนงาน/โครงการของหน่วยงานของรัฐอื่นๆ อาทิ
อปท. รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งเรื่องร้องเรียน รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,487 แผนงาน/โครงการ
ในการนี้ ก.ธ.จ. ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่จังหวัด/หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1,912 ข้อ ซึ่งจังหวัดได้รับข้อเสนอแนะไปดำเนินการแล้ว
จำนวน 328 ข้อ ซึ่งเมื่อหน่วยงานผู้รับผิดชอบรับข้อเสนอแนะจาก ก.ธ.จ. ไปดำเนินการและโครงการแล้วเสร็จ
จะส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการ เช่น การสัญจรไป –
มา/การขนส่งพืชผลทางการเกษตร/การท่องเที่ยวมีความสะดวกสบาย
ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ปัญหาน้ำท่วมทางการเกษตรได้รับการจัดการ มีการกระจายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่
เป็นต้น